วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

หนาวนี้ เที่ยว ภูทับเบิก

 สายลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศทิวเขาสูงซับซ้อน ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา แหม ๆ ๆ ว่าแล้วเราก็นำพาตัวเองไปสัมผัสความรื่นรมย์ที่ว่ากันดีกว่า และ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่จะไป ท่องเที่ยว ก็คือ "ภูทับเบิก" จังหวัดเพชรบูรณ์ นั่นแน่! อยากไปเที่ยวแล้วใช่มั้ย ตามเข้ามาเลยค่ะ...


ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์   

นอกจากนี้ ภูทับเบิก ยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

          ปัจจุบัน ภูทับเบิก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมี ดอกซากุระ หรือนางพญาเสือโครง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา 

นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสัก ที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ "ดาวบนดิน" จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว                  


การเดินทางสู่...ภูทับเบิก 
          จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง 

          อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า



ขอบคุณข้อมูลจาก  http://travel.kapook.com/view3553.html

เกาะปันหยี พังงา




เกาะปันหยี เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมที่ดีอยู่รอบๆ เกาะ ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ชาวปันหยีมีอาชีพทำประมงน้ำตื้นเป็นหลัก ทั้งอวนลอย โป๊ะ เลี้ยงหอยแครง เลี้ยงปลาในกระชัง โดยในปัจจุบันชุมชนเกาะปันหยีได้รองรับนักท่องเที่ยว โดยการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเดิมบางส่วนเป็นร้านอาหารและร้านจำหน่ายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว

เกาะปันหยี ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านท่าด่าน เกาะปันหยี เกาะไม้ไผ่ และเกาะหมากน้อย ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และประมาณร้อยละ 2 นับถือศาสนาอื่น ๆ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง เป็นหลัก


วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

เชียงคาน จ.เลย

ความวุ่นวายต่างๆ ในสังคมเมืองทุกวันนี้มีมากมายเหลือเกิน เวลาเดินเร็วขึ้นทุกขณะ ยังไม่ทันทำอะไรก็หมดเวลาอีกแล้ว หมดเวลากับการเดินทาง การรอคิวซื้ออาหาร ฯลฯ แต่จะมีที่ไหนเล่า...ที่จะให้เราได้ใช้เวลาคุ้มค่ากับ 1 วัน ที่มี 24 ชั่วโมง ให้เราได้นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดอย่างเย็นใจ ให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด ให้เราได้ใช้ชีวิตกับตัวเองมากขึ้น ความพอดีคือสิ่งที่สวยงามที่สุด นี่คือเสน่ห์ของเมืองเชียงคาน เมืองเงียบๆ กับชีวิตง่ายๆ



สิ่งที่สะดวกที่สุดในการท่องเที่ยวระยะใกล้สำหรับเมืองเชียงคานนั้น คือการปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซด์ชมเมืองตามตรอกซอกซอย และบริเวณถนนริมชายโขงโดยรอบ ชมชุมชนบ้านไม้โบราณริมฝั่งโขง เป็นชุมชนบ้านไม้เก่าที่มีลักษณะเป็นห้องแถวเรือนไม้เรียงรายตลอดแนว อายุหลายร้อยปี เป็นประตูบานเฟี้ยมเปิดกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนค้าขายไทย-ลาว มาแต่โบราณ มีระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร บ้านบางหลังเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีน โรงภาพยนตร์เก่า และยังมีบ้านที่สร้างด้วยไม้เฮี้ยขัดและโบกด้วยปูนขาวให้เห็นอยู่บ้างในปัจจุบัน บ้านบางหลังปรับปรุงตกแต่งเป็นที่พักโฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึก มาที่นี่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาตักบาตรข้าวเหนียวเป็นการทำบุญรับอรุณยามเช้า



เมืองแห่งนี้เป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก ผู้คนอัธยาศัยดี มีน้ำใจไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใส เวลาที่นี่รู้สึกว่าผ่านไปช้ามาก...เราสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง อย่างที่ชีวิตในเมืองหลวงทำไม่ได้ ได้กินเต็มที่ ได้นอนเต็มอิ่ม ได้พักผ่อนจุใจ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้รับมิตรจากคนแปลกหน้า ได้น้ำใจไมตรีจากเจ้าถิ่น และที่นี่อาจจะทำให้คุณได้แรงบันดาลใจอะไรสักอย่างก็ได้ ถ้าใครมีโอกาสได้มาเยือน ‘เมืองเชียงคาน' รับรองว่าต้องหลงเสน่ห์ความเรียบง่ายของที่นี่และอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน...



ขอบคุณข้อมูลจาก  http://travel.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

ทะเลตรัง


ถ้ำมรกต สถานที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำที่มีความงามเป็นอันดับ 2 ของโลก ตั้งอยู่ที่เกาะมุก ทางเข้ามีลักษณะเป็นโพรงเล็ก ๆ ระยะทางจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 80 เมตร นักท่องเที่ยวจะต้องใส่ชูชีพลอยคอเข้าไป ช่วงเวลาความประทับใจจึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย ณ จุดนี้ เพราะทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันถีบขาแบบจักรยานเข้าไปในถ้ำ จึงถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อผ่านพ้นความมืดของถ้ำจะพบกับสระน้ำทะเลใสสีมรกต หาดทรายขาวสะอาด อันได้ชื่อเป็นจุดเก็บขุมทรัพย์ที่ปล้นมาได้ของโจรสลัดในสมัยอดีต


เกาะกระดานเป็นเกาะที่มีชายหาดสวยที่สุดของทะเลตรัง ด้วยเหตุนี้เองจึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรของจังหวัดตรัง หาดทรายที่นี่ขาวเนียนละเอียดเหมือนแป้งน้ำทะเลใสสีสวย ชายหาดด้านหน้าที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ฯ มีแนวปะการังน้ำตื้นที่ทอดตัวเป็นแนวยาว เช่น ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อนหนามแดงและปลากหลากชนิด และที่หน้าหาดยังเป็นที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นเกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะม้า เรียงไปจนถึงเกาะไห จากหาดนี้มีเส้นทางเดินเท้าไปชมยังหาดอื่นๆ ของเกาะได้ เช่น หาดอ่าวช่องลมอยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยฯ ประมาณ 800 เมตร อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะแม้หาดนี้จะดูไม่เด่นนักแต่ก็เป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกที่สามารถมองเห็นเกาะรอกได้ชัดเจน ลักษณะหาดเป็นหาดเล็กๆทรายเม็ดละเอียด แต่มีโขดหินสีน้ำตาลเกลื่อนกลาดเต็มหาด เป็นภูมทัศน์ที่ดูแปลกตา นอกจากนี้ยังมีหาดอ่าวเนียงอยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยฯ เป็นหาดทรายขาวยาวประมาณ 800 เมตร ด้านหน้าหาดเป็นแนวปะการังน้ำตื้น ซึ่งเป็นจุดดำน้ำอีกแห่งหนึ่งของเกาะกระดาน

เกาะเชือก เป็นจุดดำน้ำตื้นที่นักท่องเที่ยวมักให้สมญานามว่า คลื่นแรงจนต้องเกาะเชือกเหมือนชื่อของเกาะจริง ๆ สำหรับเกาะเชือกเป็นเกาะเล็ก ๆ 2 เกาะอยู่ติดกัน ระหว่างเกาะมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว การดำน้ำดูปะการังจึงต้องใช้เชือกช่วยพยุงตัว จึงได้ชื่อว่า เกาะเชือก เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อที่สุดของตรัง เพราะมีแนวปะการังอ่อนหลากสี ซึ่งปะการังเหล่านี้ โดยมากจะพบในระดับน้ำลึกที่ต้องดำน้ำแบบ Scuba แต่ที่เกาะเชือกสามารถพบเห็นปะการังอ่อนหลากสีได้ ด้วยการดำน้ำตื้นแบบ Skin-diving นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งฝูงปลานานาชนิด

เกาะม้า เป็นเกาะที่อยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเกาะเชือกและเกาะแหวน จึงจัดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเดียวกัน ลักษณะเป็นโขดหินมีรูปทรงคล้ายม้า จึงเรียกว่า เกาะม้า เป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้น ดอกไม้ทะเล ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อน 7 สี จึงได้ขึ้นชื่อว่า หากต้องการชมปะการังอ่อนต้องมาที่เกาะม้า และกระแสน้ำไม่แรงเหมือนเกาะเชือก ปะการังที่เกาะม้าส่วนใหญ่แป็นปะการังอ่อน ที่เกาะอยู่ตามพื้น มีกอดอกไม้ทะเลเกาะอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงฝูงปลาการ์ตูนนีโม



ขอบคุณข้อมูลจาก http://travel.kapook.com/view26561.html

ดอยตุง พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง




ดอยตุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด่นของเชียงราย อยู่เหนือจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 45 กิโลเมตร  ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาวอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่สาย แต่เดิมเป็นเทือกเขาหัวโล้นที่ถูกชาวเขาตัดทำลายเพื่อใช้พื้นที่ทำการเกษตร  จนกระทั่งสมเด็จย่าได้เสด็จมายังดอยตุงและทรงมีพระราชดำรัสว่า ฉันจะปลูกป่าดอยตุง  หลังจากนั้นในปี 2530  รัฐบาลจึงได้เริ่มจัดทำโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้นโดยปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ ได้ดึงชาวเขาเข้ามาทำงานในโครงการปลูกป่าดอยตุง  แต่ก่อนนั้นเส้นทางขึ้นดอยตุงเป็นเส้นทางลอยฟ้า คือเมื่อนั่งรถบนถนนดอยตุงแล้วมองลงมาก็จะเห็นวิวโล่งๆ ไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ แต่ในปัจจุบันนี้ดอยตุงกลับคืนสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งเมื่อนั่งรถไปตามเส้นทางขึ้นดอยตุงจะเห็นแต่ต้นไม้แน่นขนัดนั่นล้วนเป็นป่าปลูกทั้งสิ้น  หลังจากโครงการปลูกป่าแล้วเสร็จจึงได้มีการสร้างพระตำหนักดอยตุง และมีโครงการอีกหลายๆ โครงการตามมาเพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น 


ไร่แม่ฟ้าหลวง  หรือสวนดอยตุง  เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวบนพื้นที่ 25 ไร่ อยู่ในแอ่งที่ราบด้านทิศเหนือของพระตำหนัก  สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี  กลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัว งานประติมากรรมนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่า " ความต่อเนื่อง "  นอกจากแปลงไม้ประทับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่ม จุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่างๆ ที่มีดอกสวยงามมาก  ความภาพความสวยงามของสวนแม่ฟ้าหลวง 


พระตำหนักดอยตุง

เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า ปลูกแบบง่ายๆ ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์  พระตำหนักสร้างด้วยไม้ทั้งหลังโดยมีโครงเหล็กอยู่ภายใน ไม้ในการสร้างเป็นไม้ลังใส่สินค้าที่การท่าเรือฯ คลองเตย ทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จย่า  เมื่อสร้างออกมาแล้วสวยงามยิ่งนัก รูปแบบการสร้างเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับบ้านพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์  ที่เพดานห้องโถงทำเป็นเพดานดาว  บริเวณด้านหลังพระตำหนักมีระเบียงยืนออกไป เมื่อยืนที่ระเบียงจะเห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่สวยงาม บริเวณขอบระเบียงมีกระบะปลูกไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม  พระตำหนักเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม  โดยจะต้องมีมัคคุเทศก์ของพระตำหนักเป็นผู้นำเยี่ยมชม



ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tourdoi.com/doi/doitung/general.htm

เกาะล้าน พัทยา






ถือเป็นหาดสวรรค์ของคนกรุงเพราะเกาะล้านอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เกาะล้านเป็นเกาะอยู่ใกล้ๆ พัทยา จากท่าเรือพัทยาใช้เวลาในการเดินทางไปยังเกาะล้านเพียงครึ่งชั่วโมง ที่เกาะล้านมีชายหาดสวยๆ หลายหาด

ฤดูเที่ยวเกาะล้าน

ช่วงที่หน้าเที่ยวที่สุดของเกาะล้านก็จะอยู่ในช่วง เดือนตุลาคม-เมษายน ช่วงนี้จะไม่มีมรสุมคลื่นลมในทะเลก็สงบอากาศก็ร้อนกำลังดีเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลยิ่งนัก ส่วนในช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มรสุม คลื่นลมค่อนข้างแรงหากจะไปเที่ยวก็ควรเช็คสภาพอากาศก่อนนะครับ

การเดินทางไปเกาะล้าน

วิธีเดินทางไปเที่ยวเกาะล้านง่ายๆ สามารถเดินทางมาขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัย จะมีคิวรถตู้ที่คอยให้บริการรับส่งคนไปพัทยาเพื่อต่อเรือไปยังเกาะล้านที่ท่าเรือพัทยา หรือชื่อเต็มว่าท่าเรือแหลมบาลีฮาย ตั้งอยู่ที่พัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี รถตู้จะพาท่านไปส่งถึงท่าเรือพัทยาเลย ที่คิวรถตู้จะมีรถตู้ออกตลอดทุกๆ ครึ่งชั่วโมงและมีหลายบริษัทให้ท่านได้เลือกใช้บริการ ราคาก็แตกต่างกันไป แต่ราคาก็ห่างกันไม่มาก มีตั้งแต่ 97 บาท 100 บาท 150 บาท แล้วแต่ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวว่าอยากใช้บริการคิวไหน ซึ่งการเดินทางไปยังพัทยาเพือต่อเรือไปเที่ยวเกาะล้านใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

น้ำตกเจ็ดสี บึงกาฬ





น้ำตกเจ็ดสี เดิมเรียกว่า น้ำตกห้วยกะอาม ซึ่งเกิดจากธารน้ำของห้วยกะอาม เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูงแล้วเกิด เป็นละอองไอน้ำกระทบกับแสงแดดยามบ่ายทำให้เกิดสีต่างๆ ขึ้น จึงเรียกน้ำตกเจ็ดสี มีทั้งหมด 3 ชั้น ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านดอนเสียด หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา การเดินทางใช้เส้นทางสาย อำเภอเซกา-บ้านดงบัง ประมาณ 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัด 264 กม.
การเดินทางไปน้ำตกเจ็ดสี เดินทางจากบ.ชัยพร-ทุ่งทรายจก-ดอนเสียด ระยะทาง 22 กม. และแยกซ้ายไปน้ำตกเจ็ดสีอีกประมาณ 6 กม.

ขอบคุณข้อมูลจาก http://travel.sanook.com/